รูปแบบของภาพ

รูปแบบของภาพ 
     ภาพที่เกิดบนจอคอมพิวเตอร์ เกิดจากการทำงานของโหมดสี RGB  ซึ่งประกอบด้วยสีแดง (Red) สีเขียว (Green)  และสีน้ำเงิน (Blue)  โดยใช้หลักการยิงประจุไฟฟ้าให้เกิดการเปล่งแสงของสีทั้ง 3 สีมาผสมกันทำให้เกิดเป็นจุดสีสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่เรียกว่า พิกเซล (Pixel) ซึ่งมาจากคำว่า  Picture  กับ Element โดยพิกเซลจะมีหลากหลายสี  เมื่อนำมาวางต่อกันจะเกิดเป็นรูปภาพ ซึ่งภาพที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์มี 2 ประเภท คือ แบบ Raster และแบบ  Vector
หลักการของกราฟิกแบบ  Raster
                หลักการของภาพกราฟิกแบบ Raster หรือแบบ  Bitmap เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการเรียงตัวกันของจุดสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ  หลากหลายสี ซึ่งเรียกจุดสีเหลี่ยมเล็ก ๆ นี้ว่าพิกเซล (Pixel) ในการสร้างภาพกราฟิกแบบ Raster  จะต้องกำหนดจำนวนของพิกเซลให้กับภาพที่ต้องการสร้าง ถ้ากำหนดจำนวนพิกเซลน้อย เมื่อขยายภาพให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจะทำให้แฟ้มภาพมีขนาดใหญ่ ดังนั้นการกำหนดพิกเซลจึงควรกำหนดให้เหมาะกับงานที่สร้างคือ ถ้าต้องการใช้งานทั่ว ๆ ไปจะกำหนดจำนวนพิกเซลประมาณ 100-150 ppi (Pixel/inch)  “จำนวนพิกเซลต่อ 1 ตารางนิ้ว”  ถ้าเป็นงานที่ต้องการความละเอียดน้อยและแฟ้มภาพมีขนาดเล็ก เช่น ภาพสำหรับใช้กับเว็บไซต์จะกำหนดจำนวนพิกเซลประมาณ 72 ppi  และถ้าเป็นแบบงานพิมพ์ เช่น นิตยสาร  โปสเตอร์ขนาดใหญ่  จะกำหนดจำนวนพิกเซลประมาณ  300-350 เป็นต้น  ข้อดีของภาพกราฟิกแบบ Raster  คือ สามารถแก้ไขปรับแต่งสี ตกแต่งภาพได้ง่ายและสวยงาม ซึ่งโปรแกรมที่นิยมใช้สร้างภาพกราฟิกแบบ Raster คือ  Adobe  PhotoShop, Adobe PhotoShopCS, Paint  เป็นต้น


รูปที่ 1.1  ภาพกราฟิกแบบ Raster ที่ขยายใหญ่ขึ้น

แฟ้มภาพกราฟิกแบบ  Raster  และคุณลักษณะของแฟ้มภาพกราฟิก
                นามสกุลที่ใช้เก็บแฟ้มภาพกราฟิกแบบ  Raster  มีหลายนามสกุล เช่น .BMP, .DIB, .JPG, .JPEG, .JPE, .GIF, .TIFF, .TIF, .PCX, .MSP, .PCD, .FPX, .IMG, .MAC, .MSP และ  .TGA เป็นต้น ซึ่งลักษณะของแฟ้มภาพจะแตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น

นามสกุลที่ใช้เก็บ
ลักษณะงาน
ตัวอย่างซอฟต์แวร์
ที่ใช้สร้าง
.JPG, .JPEG, .JPE
ใช้สำหรับรูปภาพทั่วไปงานเว็บเพจ และงานที่มีความจำกัดด้านพื้นที่
หน่วยความจำ
โปรแกรม PhotoShop,
PaintShopPro, Illstratior
.GIF
.TIFF, .TIF
เหมาะสำหรับงานด้านนิตยสาร เพราะมีความละเอียดของภาพสูง
.BMP, .DIB
ไฟล์มาตรฐานของระบบปฏิบัติการวินโดว์
โปรแกรม  PaintShopPro, Paint
.PCX
เป็นไฟล์ดั้งเดิมของโปรแกรมแก้ไขภาพแบบบิตแมป ไม่มีโมเดลเกรย์สเกล  ใช้กับภาพทั่วไป
โปรแกรม CorelDraw, Illustrator, Paintbrush

หลักการของกราฟิกแบบ  Vector

                หลักการของกราฟิกแบบ Vector เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการอ้างอิงความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ หรือการคำนวณ ซึ่งภาพจะมีความเป็นอิสระต่อกัน โดยแยกชิ้นส่วนของภาพทั้งหมดออกเป็นเส้นตรง เส้นโค้ง  รูปทรง  เมื่อมีการขยายภาพความละเอียดของภาพไม่ลดลง  แฟ้มมีขนาดเล็กกว่าแบบ Raster  ภาพกราฟิกแบบ Vector  นิยมใช้เพื่องานสถาปัยต์ตกแต่งภายในและการออกแบบต่าง ๆ เช่น การออกแบบอาคาร  การออกแบบรถยนต์  การสร้างโลโก  การสร้างการ์ตูน เป็นต้น ซึ่งโปรแกรมที่นิยมใช้สร้างภาพแบบ Vector คือ โปรแกรม  Illustrator, CoreDraw, AutoCAD, 3Ds max เป็นต้น  แต่อุปกรณ์ที่ใช้แสดงผลภาพ เช่น จอคอมพิวเตอร์จะเป็นการแสดงผลภาพเป็นแบบ  Raster

รูปที่ 1.2  ภาพกราฟิกแบบ Vector ที่ขยายใหญ่ขึ้น

แฟ้มภาพกราฟิกแบบ  Vector  และคุณลักษณะของแฟ้มภาพกราฟิก
                นามสกุลที่ใช้เก็บแฟ้มภาพกราฟิกแบบ  Vector  มีหลายนามสกุลเช่น  .EPS, .WMF, .CDR, .AI, .CGM, .DRW, .PLT, .DXF, .PIC  และ  .PGL  เป็นต้น  ซึ่งลักษณะของแฟ้มภาพจะแตกต่างกันไป เช่น

นามสกุลที่ใช้เก็บ
ลักษณะงาน
ตัวอย่างซอฟต์แวร์
ที่ใช้สร้าง
.AI
ใช้สำหรับงานที่ต้องการความละเอียดของภาพมาก เช่น การสร้างการ์ตูน  การสร้างโลโก เป็นต้น
โปรแกรม  Illustrator
.EPS
.WMF
ไฟล์มาตรฐานของโปรแกรม Microsoft Office
โปรแกรม  CorelDraw


ความแตกต่างของกราฟิกแบบ 2 มิติ

                ภาพกราฟิก 2 มิติแบบ  Raster และ แบบ  Vector  มีความแตกต่างกันดังนี้

ภาพกราฟิกแบบ  Raster
ภาพกราฟิกแบบ Vector
1. ภาพกราฟิกเกิดจากจุดสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หลากหลายสี (Pixels) มาเรียงต่อกันจนกลายเป็นรูปภาพ
1. ภาพเกิดจากการอ้างอิงความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์หรือการคำนวณ โดยองค์ประกอบของภาพมีอิสระต่อกัน
2. การขยายภาพกราฟิกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จะทำให้ความละเอียดของภาพลดลง ทำให้มองเห็นภาพเป็นจุดสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ
2. การขยายภาพกราฟิกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ภาพยังคงความละเอียดคมชัดเหมือนเดิม
3. การตกแต่งและแก้ไขภาพ สามารถทำได้ง่ายและสวยงาม เช่น การ  Retouching ภาพคนแก่ให้หนุ่มขึ้น การปรับสีผิวกายให้ขาวเนียนขึ้น เป็นต้น
3. เหมาะกับงานออกแบบต่าง ๆ เช่น งานสถาปัตย์
ออกแบบโลโก เป็นต้น
4. การประมวลผลภาพสามารถทำได้รวดเร็ว
4. การประมวลผลภาพจะใช้เวลานาน เนื่องจากใช้คำสั่งในการทำงานมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น